ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

จากการประชุมทางวิชาการของคุรุสภา “การนำเสนอผลงานวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และนวัตกรรมสถานศึกษาเพื่อการพัฒนาวิชาชีพ” เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่โรงแรมมิราเคิลฯ ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การบริหารการศึกษา” ตอนหนึ่งว่า พันธกิจของโรงเรียนมี 3 ประการสำคัญ คือ 1. การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรให้ได้ผลสูงสุดโดยต้องมีการปฏิสัมพันธ์ ระหว่างครูกับนักเรียน เช่น ที่ประเทศจีนในแต่ละวัน ครูกับนักเรียนต้องทำความเข้าใจในบทเรียนอย่างถ่องแท้จึงจะกลับบ้านได้ ไม่ใช่สอนเพื่อให้หมดคาบวิชา ทำให้ประเทศจีนไม่มีการกวดวิชา ซึ่งหากเราปลุกเร้าการเรียนการสอนให้ได้ผลสูงสุด คำครหาต่าง ๆ ก็จะหมดไป 2 .การสร้างอุปนิสัยให้แก่ผู้เรียน ซึ่งโรงเรียนควรสร้างชุดอุปนิสัยที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนและประเทศชาติ โดยไม่จำเป็นต้องมากข้อ เช่น เป็นผู้จงรักภักดีต่อแผ่นดินเกิด เป็นพลเมืองดี โดยยึดถือสิทธิสาธารณะ ซึ่งหากทุกคนยึดถือสิทธิสาธารณะสังคมก็จะอยู่ได้ และ 3. ให้โอกาสผู้เรียนได้ทำงานเพื่อสร้างความเก่งตามความถนัด

องคมนตรี กล่าวต่อไปว่า การบริหารสถานศึกษาและการจัดการเรียนการสอนโดยการบริหารหลักสูตร สามารถน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้ได้ คือ ประหยัด เรียบง่าย และประโยชน์สูงสุด หรือประสิทธิผลในการจัดการศึกษา ซึ่งสามารถนำการวิจัยมาช่วยในการบริหารและแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งนี้อยากให้คุรุสภาออกแบบงานวิจัยเพื่อนำมาใช้ในการบริหารสถานศึกษาให้ เป็นไปตามพระบรมราโชวาท และหากมีการใช้งานวิจัยเป็นประจำก็จะช่วยให้งานดีขึ้น เกิดความคิดใหม่ ๆ และเกิดนวัตกรรมตามมา ทั้งนี้การสอนที่เรียบง่าย เข้าใจง่ายจะทำให้นักเรียนประทับใจในตัวครูได้ด้วย“นักเรียนเป็นผู้ที่น่า สงสารที่สุดในระบบการศึกษา เพราะต้องรับกรรมทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ที่เราบอกว่าเด็กเป็นศูนย์กลางของการศึกษา จริง ๆ แล้วเป็นเหยื่อของการศึกษา ความดี ไม่ดี ความถูก ไม่ถูก ของนโยบายการศึกษาเด็กรับกรรมที่สุด แล้วแต่ว่าในช่วงไหน” องคมนตรี กล่าว.

ที่มา: เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี ที่ 15 กันยายน 2554 เวลา 9:18 น

แสดงความคิดผ่าน Facebook